INTERMISSION(5) โดย อ.วิภัช ธราภาค
ขณะนี้ยังเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันก็จะได้ส่งท้ายปีเก่าและฉลองต้อนรับปีใหม่ พ.ศ. 2558 กันให้เบิกบานสำราญใจกันอยู่แล้วนั้น เชื่อว่ายังมีพวกเราอีกจำนวนไม่น้อยที่อดบ่นไม่ได้ว่ากาลเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเสียเหลือเกิน ทั้ง ๆ ที่ตามหลักการด้านวิทยาศาสตร์ หรือกลศาสตร์ต่างก็ยืนยันว่า กาลเวลาก็ยังเดินหน้าไปในอัตราปกติ จะเร็วหรือช้าไปเพียงปีละไม่กี่วินาทีเท่านั้นเอง รวมทั้งนาฬิกาของเราซึ่งได้ลงทุนซื้อหามาอย่างรอบคอบ เอาชนิดที่เชื่อถือได้จริง ๆ ก็ยังยืนยันว่า กาลเวลามิได้เร็วหรือช้าไปกว่าปกติแต่อย่างใดในตอนระยะใกล้จะสิ้นปีอีกด้วยเช่นเดียวกัน
ในช่วงเวลาที่ยังเหลืออยู่อีกไม่กี่วันนี้ ให้เรามาใช้อย่างเบาสมอง หรือไม่ต้องคิดอะไรให้หนักสมองจนเกินไป ดังนั้นคอลัมน์นี้ขอหันไปว่ากันในเรื่องของสี ซึ่งเราก็ทราบกันอยู่แล้วว่า เรามีสีแดง, สีน้ำเงิน, และสีเหลือง ซึ่งถือว่าเป็นแม่สี หรือ basic colors โดยที่เราสามารถใช้แม่สีทั้งสามหรือเพียงแต่สีหนึ่งสีใดไปผสมให้อ่อนหรือแก่สักเท่าใดก็สุดแต่ความปรารถนาที่จะสร้างความรู้สึกให้เกิดอารมณ์ขึ้นมาในทำนองใดก็ย่อมได้ สุดแต่ความสามารถของผู้ที่ผสมสีนั้น ๆ ได้นั่นเอง
โอกาสนี้จะขอว่าถึงเพียงแต่สีน้ำเงินหรือสีบลู (blue) ซึ่งในด้านภาษาอังกฤษอเมริกันสามารถนำไปใช้เป็นคำคุณศัพท์ประกอบคำนามแล้วสร้างความหมายและความรู้สึกตลอดจนความเข้าใจไปได้มากมาย อาทิเช่น
Blue blooded หมายถึงบุคคลที่มีเชื้อสายเกี่ยวโยงพระราชวงศ์ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เรามักจะให้เกียรติเป็นพิเศษมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป และคำนี้ใช้เป็นคำคุณศัพท์ แต่ถ้าเขียนว่า blue blood สั้น ๆ ก็ใช้เป็นคำนามซึ่งหมายถึงบุคคล หรือใครคนหนึ่งก็ได้
Blue chip หมายถึงการลงทุนซื้อหุ้นในตลาดซึ่งเป็นที่ยอมรับว่ามีความเสี่ยงน้อยและมีโอกาสทำเงินได้ดีกว่าหุ้นประเภทอื่น ๆ
Blue collar หมายถึงผู้ที่ใช้แรงงานเป็นส่วนใหญ่ในการหารายได้ไปเลี้ยงตนเองหรือครอบครัว ซึ่งตรงข้ามกับคำว่า white collar คือพวกทำงานนั่งโต๊ะและใช้สมองทำงานมากกว่า
Blue ribbon หรือโบว์สีน้ำเงิน หมายถึงรางวัลที่หนึ่งในการประกวดแข่งขันอะไรก็สุดแต่
นอกจากนั้นแล้ว ถ้าเมื่อใดเห็นคำว่า Blues คือมีอักษร s เข้ามาต่อท้ายอยู่ก็หมายถึงการเล่นดนตรีในทำนองเพลงเศร้า ซึ่งมักจะเป็นที่นิยมในกลุ่มชนผิวดำในสหรัฐ ฯ หรือมิฉะนั้นอาจหมายถึงอารมณ์เศร้าของใครคนหนึ่งซึ่งยังฝังตนเองอยู่ในอดีตซึ่งยังไม่ลืมเลือนไปจากความทรงจำ และอาจเป็นกันมากในช่วงเวลาใกล้คริสต์มาสและปีใหม่ ดังนั้น ถ้าเห็นเพื่อนฝูงหรือคนใกล้เคียงตกอยู่ในอารมณ์เช่นนั้น ก็ควรช่วยเขาโดยชักชวนให้ออกไปมีกิจกรรมอะไรที่รื่นเริงก็จะเป็นการสร้างกุศลอย่างหนึ่งได้แน่นอนเลยทีเดียว
ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข